คณะพร้อมกันที่สนามบินดอนเมือง อาคาร 2 ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ชั้น 3 ประตู 14 เคาน์เตอร์
สายการบินนกแอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารและสัมภาระ เตรียมตัว
โดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD 8818
ถึงน่าน เปลี่ยนขึ้นรถตู้ปรับอากาศ นำท่านทำความรู้จักเมืองน่าฮักแห่งนี้ให้มากขึ้นใน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่านชมงาช้างดำ
สัญลักษณ์เมืองน่านและเป็นงาช้างดำหนึ่งเดียวในไทย
อิสระอาหารกลางวัน ณ.ศูนย์โอทอ๊ป กับร้านข้าวซอยดัง ต้นน้ำและเฮือนฮอม หลังจากนั้น ชมวัดภูมินทร์เป็นวัดหลวง ตั้งอยู่ในเขตพระนครดังปรากฏชื่อตำบลในเวียงในปัจจุบัน
อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน ตามพงศาวดารของเมืองน่าน
พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์เจ้าผู้ครองนครน่านได้สร้างวัดภูมินทร์ขึ้นหลังจากที่ครองนครน่านได้
6 ปี เมื่อ พ.ศ.2139 มีปรากฏในคัมภีร์เมืองเหนือว่าเดิมชื่อ“วัดพรหมมินทร์”แต่ตอนหลังชื่อวัดได้เพี้ยนไปจากเดิมเป็นวัดภูมินทร์จุดเด่นของวัดนี้คือเป็นวัดที่สร้างทรงจตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค
2 ตัว ภาพจิตรกรรมหรือ “ฮูบแต้ม”
ในวัดภูมินทร์เป็นชาดกในพุทธศาสนาแต่ถ้าพิจารณารายละเอียดของวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยนั้น
มีภาพที่น่าสนใจอยู่หลายภาพเช่น ภาพธรรมเนียมการอยู่ข่วง ของชาวไทลื้อ พ่อแม่
จะอนุญาตให้หนุ่มสาวพบปะกันที่ชานบ้านในเวลาค่ำ ขณะหญิงสาวกำลังปั่นฝ้าย หรือ
“อยู่ข่วง” หากสาวเจ้าตกลงปลงใจด้วยก็จะจัดพิธีแต่งงาน หรือที่เรียกว่า “เอาคำ
ไปป่องกั๋น” หรือเป็นทองแผ่นเดียวกัน การค้าขายแลกเปลี่ยนในชุมชน ภาพชาวพื้นเมือง
ซึ่งอาจเป็นชาวเขา “เป๊อะ” ของป่าบนศรีษะ เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนกับคนเมือง ภาพปู่ม่าน
ย่าม่าน กระซิบรักบรรลือโลก ภาพนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่งามเป็นเยี่ยมของวัดภูมินทร์
ชมวัดพระธาตุเจดีย์ช้างค้ำวรวิหาร
เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีลิกธาตุไว้ภายใน นับเป็น ปูชนียสถาน สำคัญ เป็นเจดีย์
ที่ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะสุโขทัย จากเจดีย์ทรงลังกา คือเจดีย์วัดช้างล้อม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่อำเภอปัว
ระหว่างทางแวะวัดหนองบัว ซึ่งเป็นหัวใจแห่งไทลื้อ ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถ
และเลือกซื้อผ้าซิ่นทอมือพื้นเมืองของชาวน่าน ณ ศูนย์บริการวัฒนธรรมสายใยชุมชน
นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ณ ฮักปัว รีสอร์ท
หรือ เทียบเท่า พักผ่อนตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารเย็น (1)
ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท หลังอาหารเชิญทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารเช้า (2)
ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท
ออกเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีสภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน
ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ โดยเฉพาะ ยอดดอยภูคา
มีเมฆปกคลุมตลอดฤดูฝนและฤดูหนาว จึงมีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ดอยภูคา
เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่มีทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่าที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์
จุดเด่นของ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
คือ การได้มาชมต้นชมพูภูคา (Bretschneidera sinensi ) พันธุ์ไม้ที่ได้ชื่อ
ว่าหายากที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เคยพบในมณฑลยูนนานของจีน ก่อนจะสูญพันธุ์ไป
และมีการค้นพบอีกครั้งใน ประเทศไทยที่ดอยภูคา จังหวัดน่าน พันธุ์ไม้ชนิดนี้จึง
หลงเหลืออยู่ในโลกเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ประเทศไทย
เดินทางสู่ บ่อเกลือ ชมการผลิตเกลือสินธุ์เทา โดยกรรมวิธีการต้มในกระทะใบบัว
รับประทานอาหารเที่ยง
(3) ณ ร้านอาหาร
ชม โครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนาในสมเด็จพระเทพฯ
(ภูฟ้า) ซึ่งเป็นโครงการ
ส่งเสริมอาชีพตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ
จากภูมิปัญญาท้องถิ่นของเกษตรกรชาวบ้านในพื้นที่
นำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ.โรงแรมเทวราช หรือเทียบเท่าเชิญทุกท่านพักผ่อนตามอธัยาศัย (อิสระอาหารเย็น
บริเวณโรงแรมใกล้ตลาด)
รับประทานอาหารเช้า (4) ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท หลังจากนั้นออกเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งเป็น
ที่ตั้งของดอยเสมอดาวเป็นพื้นที่ที่มีลานกว้าง จนถึงสันเขาเหมาะสำหรับการพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม
ชมผาหัวสิงห์เป็นหน้าผามีรูปร่างหมือนสิงโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออกสามารถมองเห็นทิวทัศน์
ได้ 360 องศา
รับประทานอาหารกลางวัน (5) ณ ร้านอาหาร และออกเดินทางต่อ สู่วัดพระธาตุเขาน้อย เก็บภาพตัวเมืองน่านในมุมสูง
นำท่านมายังวัดพระธาตุแช่แห้ง ไม่เพียงเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองน่านเท่านั้น
หากยังเป็นพระธาตุประจำชีวิตของคนเกิดปีเถาะ จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พระยาการเมือง เจ้านครน่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจาก กรุงสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง
และตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่ง แม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้
และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งพระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก
พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า
ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง
พาทุกท่านแวะซื้อของฝากคนทางบ้าน ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินน่าน
เหินฟ้าสู่ จ.กรุงเทพฯ โดยสายการบินนกแอร์
เที่ยวบินที่ DD 8827
ถึงกรุงเทพฯด้วยความสุขและความประทับใจ
อัตราค่าบริการ
กำหนดการเดินทาง |
ผู้ใหญ่/เด็ก |
พักเดี่ยว |
วันที่ 6-8 / 20-22 ส.ค. 62 |
6,999 |
1,500 |
วันที่ 10-12 / 24-26 ก.ย. 62 |
7,999 |
|
วันที่ 1-3 / 8-10 / 29-31 ต.ต.62 |
อัตราค่าบริการวม - ค่าตั๋วเครื่องบินไป กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ
** สายการบินที่ใช้ นกแอร์ ** -
ค่ารถตู้ปรับอากาศ -
ค่าอาหารทุกมื้อตามโปรแกรม
-
ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆตามโปรแกรม - ค่าทีพัก 2
คืน (พักห้องละ 2 -3ท่าน)
-
มัคคุเทศก์ (ในกรณีคณะทัวร์ 8 ท่าน) - น้ำดื่มวันละ 1 ขวด
- ประกันอุบัติเหตุวงเงินคุ้มครองไม่เกินท่านละ
1,000,000 บาท
อัตรานี้ไม่รวม - ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่าง อาทิเช่น ค่าโทรศัพท์ ,ค่าซักรีด
,ค่าเครื่องดื่มมินิบาร์
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม นอกเหนือรายการ
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
-
**ค่าน้ำหนักกระเป๋า ไป-กลับ 800 บาท (หิ้วขึ้นเครื่องได้ 7 กิโล)**
เงื่อนไขการจอง - มัดจำ 3,000 บาท / ท่าน
ส่วนที่เหลือชำระก่อนวันเดินทาง 15 วัน
-
กรณียกเลิกการเดินทาง หากแจ้งหลังจากจ่ายเงินมัดจำแล้ว หรือชำระเงินเต็มจำนวนแล้ว
ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินใดๆทั้งสิ้นให้กับลูกค้า
เนื่องจากทัวร์รายการนี้เป็นทัวร์ราคาพิเศษ
-
กรณีที่มีการจองต่ำกว่า 8 คน
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกโปรแกรมนี้โดยจะคืนเงินที่ลูกค้าได้ชำระไว้แล้วทั้งหมด
หมายเหตุ
โปรแกรมการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ประโยชน์และความปลอดภัยของท่านเป็นสำคัญ
*** ค่าทิปไกด์และคนขับรถ
ท่านละ 600 บาท ตลอดการเดินทาง ***